ฤดูสุข - สมบัติที่ไม่สะสม - WriteNow Mag(old)

Pinterest

test banner

Post Top Ad

Responsive Ads Here

ฤดูสุข - สมบัติที่ไม่สะสม

Share This


ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ฉันมีเหตุการณ์ชีวิตที่ทำให้ต้องย้ายบ้านถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือย้ายจากอพาร์ตเม้นต์ไปอยู่บ้านเล็กที่ซื้อไว้ และครั้งต่อมาคือการย้ายเข้าไปบ้านของคนรักหลังการแต่งงาน การย้ายบ้านครั้งหลังอยู่ในช่วงที่ประเทศกำลังผลัดแผ่นดิน ทำให้ฉันโกลาหลทั้งทางหัวใจ การงาน และชีวิต

ในวันที่ 14 ตุลาคม 2559 ขณะที่รอชมพระราชพิธีอัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่พระบรมมหาราชวัง ก็ได้เห็นรถพระที่นั่งที่ใช้อัญเชิญพระบรมศพของพระองค์ เป็นรถยนต์พระที่นั่งที่แสนเรียบง่าย ทราบภายหลังว่าเป็นรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงโปรดใช้งาน ชื่อว่า “เจมส์ บอนด์” นอกจากจะไม่มีการตกแต่งอะไรเป็นพิเศษ แทบทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิมจากโรงงาน รถยนต์พระที่นั่งคันนี้ยังมีโต๊ะตัวเล็กไว้สำหรับใช้ทรงงานขณะพระองค์เสด็จพระราชดำเนินช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย

“ชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียง” นั้น เป็นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำให้เห็นแม้ในวันสุดท้ายของพระองค์ และนั่นทำให้ฉันหันกลับมามองสมบัติส่วนตัวมากมายที่ถูกเก็บเข้ากล่องเพื่อเตรียมให้บริษัทรับขนย้ายเข้ามาย้ายมันไปบ้านหลังใหม่

คำถามที่ต้องหันมาถามตัวเองคือ เราจะมีสมบัติที่เราหวงแหนไปมากมายทำไม เมื่อวันสุดท้ายเราไม่ได้เอาอะไรไปเลยนอกจากความดีงามหรือชั่วช้าที่อาจกลายเป็นสมบัติไปให้ยมบาลตัดสินว่าเราจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ หรือหากยมบาลไม่ได้มีจริง ความดีงามหรือชั่วช้าที่เรามีนั้นก็จะกลายเป็นตัวอย่างให้คนที่ยังเหลืออยู่ได้ตระหนักรู้

แล้วเราจะให้คนรุ่นหลังคอยดูตัวอย่างจากความชั่วช้าของเราละหรือ? ฉันว่าชีวิตแบบนั้นคงไม่ดีสักเท่าไหร่

“ชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียง” นั้น เป็นสิ่งที่ใครต่อใครต่างพูดถึง อยากมี อยากเป็น แต่หลายคนไม่ได้ลงมือทำ

สำหรับฉันแล้วฉันคิดว่า “ชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียง” นั้น ไม่จำเป็นต้องหมายถึง อยู่ทำงานหนักจนมีเงินทองมากมายแล้วพอ หรือการลาออกจากงานไปใช้ชีวิตในชนบท ปลูกผัก ทำการเกษตร แต่มันอาจหมายถึงแค่สิ่งง่ายๆแค่ “การรู้ว่าสิ่งใดจำเป็นกับตัวเอง”

ฉันจึงมองเข้าไปในกล่องสมบัติมากมายที่เตรียมย้ายบ้าน หลายกล่องเป็นของสะสม บางกล่องเป็นของที่ใช้ประโยชน์จากมันแล้วแต่ยังเก็บไว้เพราะเสียดาย เช่น หนังสือที่อ่านแล้ว เสื้อผ้าที่ซื้อมาจนลืมเพราะไม่เคยหยิบใส่ ตุ๊กตาที่ซื้อเพราะต้องตาถูกใจ แม้กระทั่งยาที่หมอสั่งให้เพื่อรักษาอาการจนหายแล้วแต่ยายังเหลืออยู่มาก บางตัวหมดอายุมาหลายปีโดยไม่เคยได้ดูมาก่อน

สมบัติที่เราสะสมเอาไว้ บางอย่างอาจไม่จำเป็นต่อเราเลย แต่ก็ยังมีความจำเป็นต่อคนบางคน

ฉันจึงตัดสินใจแยกกล่องต่างๆใหม่ กล่องเสื้อผ้าที่จำเป็นกับฉัน และกล่องบริจาค หนังสือที่ยังต้องใช้อ่าน ที่ยังไม่ได้อ่าน กับหนังสือที่จะแบ่งไปบริจาค ตุ๊กตาที่จะส่งต่อให้บ้านเด็กอ่อน และยาที่ไม่หมดอายุทั้งยังไม่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาอาการของตัวเองแล้ว ก็แยกไปบริจาคคืนให้กับโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลบอกว่าจะมีเภสัชกรมาคัดยาที่สามารถใช้ได้นำไปรักษาอาการของผู้ป่วยต่อไป

สุดท้าย กล่องสมบัติสำหรับย้ายบ้านก็เหลือน้อยลง แต่กล่องสมบัติที่ไม่สะสมนั้นกลับนำความสุขเพิ่มพูนสู่ใจมากขึ้นกว่าสมบัติที่ฉันมี

“ชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียง” ในคำสอนสุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระปรินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถูกฉันตีความออกมาง่ายๆเช่นนั้น แค่ไม่สะสมสมบัติมากมาย และนำสมบัติที่เกินความจำเป็นไปแบ่งปันให้กับคนอื่นที่จำเป็นกว่า แค่นั้น...เราจะรู้จักชีวิตที่เรียบง่าย พอเพียง และเป็นสุขขึ้นมามากมายนักแล้ว

ลองมามองหาสมบัติที่ไม่สะสมของคุณดูสิคะ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad

Responsive Ads Here

Pages